เรื่องของอาหาร (๕)
เรื่องและภาพ : วีระ สุดสังข์
การปรุงอาหารเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง รสชาติอาหารจึงเป็นรสชาติของศิลปะ รสชาติอาหารไม่ต่างจากรสชาติของบทกวี เรื่องสั้น นิยาย สารคดี ภาพถ่าย ภาพวาด การแสดง ฯลฯ การประกวดรสชาติอาหารหรือการประกวดงานศิลปะใดๆ นอกจากเป็นการไม่เข้าใจศิลปะแล้วยังเป็นการทำลายศิลปะอีกด้วย
กรรมการตัดสินรสชาติอาหารหรือกรรมการตัดสินงานศิลปะ แม้จะมีหลักการ หลักเกณฑ์อย่างไร ผู้ตัดสินย่อมใช้รสนิยมส่วนตัวเข้าไปตัดสิน รสนิยมส่วนตัวไม่ใช่รสนิยมที่เป็นบรรทัดฐานหรือเป็นตัวแทนของบริโภคหรือผู้เสพทั้งมวล ฉะนั้น เมื่อประกาศผลออกมาว่า รสชาติอาหารชนิดนั้น งานศิลปะประเภทนั้น ได้รับรางวัล “ชนะเลิศ” มันชนะเลิศเฉพาะกรรมการเท่านั้น มันไม่ใช่ผลชนะเลิศของผู้บริโภคหรือผู้เสพทั้งสังคม ถึงจะมีคณะกรรมการ ๓ – ๕ – ๗ คน มันก็ชนะเลิศสำหรับคน ๓ – ๕ – ๗ คนเท่านั้น
การชี้ว่า ผลงานศิลปะของใครดีกว่าของใคร จึงเป็นการแสดงออกถึงความเขลา., ไม่ว่าจะเป็นรสชาติอาหารหรืองานศิลปะ มันเป็นผลงานของคน มันเกิดจากคน ถ้าบอกว่า ผลงานของคนนี้ดีกว่าของคนนั้นก็เหมือนชี้ว่า คนนี้ดีกว่าคนนั้น คุณมีสิทธิ์อะไรไปตัดสินอย่างนั้น? รสชาติอาหารที่คุณชอบ คนอื่นอาจจะไม่ชอบก็ได้ ผลงานศิลปะที่คุณชอบ คนอื่นอาจไม่ชอบก็ได้ คนที่คุณชอบ คนอื่นอาจไม่ชอบก็ได้ เรื่องชอบหรือไม่ชอบเป็นเรื่องปัจเจกที่ต้องเก็บไว้ในใจ คุณจะไปชี้ให้คนอื่นเห็นเหมือนคุณไม่ได้ !!!
นี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ผมไม่อยากเป็นกรรมการตัดสินอะไร แต่จำใจ จำยอมมาแล้วหลายครั้ง !!!
อ่าน: เรื่องของอาหาร (๑)
อ่าน: เรื่องของอาหาร (๒)
อ่าน: เรื่องของอาหาร (๓)
อ่าน: เรื่องของอาหาร (๔)