คอลัมน์อะคาเดมีชีวิต “ทางอีศาน” ฉบับ เม.ย. ๖๔ ผู้รู้ ใช้นามปากกา “เสรี พพ.” เขียนถึง “ไทยยูโธเปีย ภาพนิมิตไทย

ในภาพนิมิตนั้น เมืองไทยจะไม่มีความยากจนและความเหลื่อมล้ำมาก เพราะจะมีอย่างน้อย ๓ อย่างเกิดขึ้น ผนึกพลังกัน เหมือนปี ๒๐๐๗ มีเทคโนโลยีหลายอย่างผสานกัน เกิดสมาร์ทโฟน สังคมเปลี่ยนหมดทั้งรูปแบบและเนื้อหา

สามอย่างหลัก ที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสังคมไทย ถึงรากถึงโคน คือ

๑. การเรียนรู้ การศึกษาจะเปลี่ยนไป กลไกการเรียนรู้จะหลากหลายเปิดกว้าง คนจะเรียนรู้ด้วยตัวเองมากขึ้น

ภาพรวมจะดีขึ้น แม้ส่วนหนึ่งจะถูกหลอกหลอนมากขึ้นก็ตาม ปลาฉลาดจะกินปลาโง่ต่อไป

คนแก่คนเก่าพลังอนุรักษ์จะค่อยๆหายไป คนรุ่นใหม่ แนวคิดใหม่ โลกทัศน์ใหม่จะมาแทน

สถานศึกษา โรงเรียน มหาวิทยาลัยจะถูกดิสทรัพ (หักโค่น) ที่อยู่ได้เพราะมีการปรับตัว มีแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ สังคมใหม่ การศึกษาจะเปิดกว้างไม่จำกัดอยู่ในสถาบัน เพราะข้อมูลความรู้มีเต็มไปหมด

คงต้องเชื่อเนลสัน แมนเดลา ที่ต่อสู้ทุกรูปแบบเพื่อการเปลี่ยนแปลง ที่สุดสรุปว่า อาวุธที่มีพลังมากที่สุดเพื่อการเปลี่ยนโลก คือ การศึกษา

๒. การเมืองจะเปลี่ยนไปเป็นประชาธิปไตยทางตรง ความสำเร็จของประชาธิปไตยตัวแทนจะลดลง เพราะประชาชนจะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ทวงคืนอำนาจมาบริหารจัดการเองมากขึ้น

จะลงคะแนนโหวตเรื่องต่าง ๆ ได้ตลอดเวลา ผู้แทนที่เลือกเข้าไปมีหน้าที่ทำงานตามนโยบายที่ประชาชน เจ้าของนโยบายเป็นผู้กำหนดจริง จะไม่มีการเซ็น “เช็คเปล่า” ให้ผู้แทนแบบวันนี้อีกต่อไป

ก่อนมีเทคโนโลยีสมัยใหม่ มีประชาธิปไตยทางตรงที่สวิส ประชาชนปกครองตนเอง ลงประชามติในทุกระดับตั้งแต่ชุมชนไปถึงระดับจังหวัด ระดับชาติ

คนทั่วโลกไม่ค่อยรู้ว่าใครเป็นผู้นำประเทศสวิส เพราะที่นั่นประชาชนเป็นใหญ่และปกครองตนเอง

สวิสเศรษฐกิจดี มีรายได้ต่อหัวอันดับสองของโลก

หรือที่กำลังแสดงให้เห็นประชาธิปไตยแบบทางตรงที่อิตาลี มีพรรคการเมืองอย่าง “ห้าดาว” ขอเป็นขบวนการมากกว่าเป็นพรรค มีผู้แทนได้รับเลือกเข้าสภามากที่สุด ทั้ง ๆ ที่ตั้งมาเพียง ๑๐ ปี

เป็นพรรคที่ใช้มือถือทำงานลงมติ เลือกผู้แทนในรูปแบบต่าง ๆ

ต่อไปเมืองไทย แม้จะยังมีพรรค แต่จะเป็นขบวนการมากกว่าเป็นสถาบัน ซึ่งแข็งตัว ปิดตัว ใช้อำนาจ ใช้กฎระเบียบ ขณะที่ “ขบวนการ” ยืดหยุ่น ไหลลื่นเหมือนน้ำ มีพลัง มีชีวิต

อำนาจเป็นของสมาชิกมากกว่าเป็นของคณะกรรมการเหมือนในกรณีที่เป็นพรรค

อย่าคิดว่าเป็นไปไม่ได้ สิบกว่าปีก่อนไม่มีใครคิดว่าชาวบ้านในชนบทจะใช้สมาร์ทโฟน วันนี้มีไวไฟไปทั่ว และปีต่อไปจะมีไวไฟดาวเทียมแรงสูง ที่อยู่จุดไหนของโลกก็สื่อสารกันได้

๓. UBI รายได้พื้นฐานถ้วนหน้า เงินเดือนฟรี รัฐบาลส่งให้ประชาชนทุกคนโดยไม่มีเงื่อนไข เพื่อเป็นตาข่ายปลอดภัย แบบถาวร ไม่ใช่รอให้เกิดปัญหาแล้วค่อยเยียวยา อย่างกรณีโควิด ฯลฯ

สรุป สังคมประชาธิปไตยทางตรง จะลดความเหลื่อมล้ำ ลดโอกาสปลาใหญ่กินปลาเล็ก บรรดาทุนใหญ่จะไม่สามารถครอบงำรัฐบาลที่จะมีอำนาจน้อยลง เพราะรัฏฐาธิปัตย์อยู่ในมือ (ถือ) ของประชาชน

ภาพนิมิตนี้เป็นจริงได้ โลกหมุนเร็วอย่างนี้ อาจมีอะไรที่คาดไม่ถึงเกิดขึ้นได้เสมอ.

กิเลน ประลองเชิง

ขอบคุณ https://www.thairath.co.th/news/society/2069539

WP2Social Auto Publish Powered By : XYZScripts.com