ไม่ทำตามกฎ
การระบาดของโรคโควิด-19 มีผล กระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม ไปทั่วโลก มีผู้คนล้มตายกันทุก ๆ วัน สร้างความหวาดผวากันไปทุกหัวระแหง ทุกประเทศทั่วโลกจึงมีมาตรการ ให้ประชาชนในประเทศของตน ปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด เช่น การรักษาระยะห่าง การเว้นจากการสัมผัสผู้ใกล้ชิด การสวมหน้ากากอนามัย การใช้เจล แอลกอฮอล์เช็ดล้างมือ การใช้ช้อนกลาง และการฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกัน เป็นต้น
ด้วยความหวาดกลัว และระแวงว่าตัวเองและคนรอบข้าง จะนำเชื้อโควิด-19 มาแพร่สู่กันและกัน ผู้คนส่วนใหญ่จึงต้องปฏิบัติตามกฎ และมาตรการของทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด
พ่อเฒ่าอ่ำ มีลูกเขยชื่อ บักอ่วม พักอาศัยอยู่ในครอบครัวเดียวกัน ถ้ามีกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการประสานงานกับองค์กรต่าง ๆ พ่อเฒ่าอ่ำมักจะขอร้องหรือวานบักอ่วม ผู้เป็นลูกเขย ให้พาไปดำเนินการเสมอ ๆ เนื่องจากบักอ่วม มันมีความรู้ มีพรรคพวกมาก และเป็นผู้ประสานงานได้ดี จนเป็นที่ไว้วางใจได้
วันหนึ่ง ในห้วงเวลาที่โรคโควิด-19 กำลังระบาดหนัก พ่อเฒ่าอ่ำได้รับแจ้งจากธนาคารแห่งหนึ่ง ให้ไปทำธุรกรรมทางการเงินกับธนาคาร พ่อเฒ่าอ่ำจึงชวนบักอ่วมให้เป็นผู้นำพาไป
ที่ธนาคาร มีการบริการลูกค้าด้วยการแจกเจลล้างมือฆ่าเชื้อโควิด-19 ด้วย ลูกค้าต่างก็ไปเข้าคิวรับแจกเจลแอลกอฮอล์กัน บักอ่วมเดินไปเข้าคิวรับแจกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ พ่อเฒ่าอ่ำก็เข้าคิวต่อจากบักอ่วม ในขณะเข้าคิว บักอ่วมเกิดตดเสียงดังจนน่าเกลียด! พ่อเฒ่าอ่ำจึงต่อว่า
“บักห่าอ่วม มึงบ่น่าตดขณะเข้าคิวเลย!”
“อ้าว! เจ้าได้ยินเสียงตด แสดงว่า เจ้าบ่รักษาระยะห่างตั๊วนิ่!” บักอ่วมว่า
“โห้! ตดมึงเหม็นป๋านขี้เว้ย!”
พ่อเฒ่าอ่ำจ่มแบบเคือง ๆ บักอ่วมหันหน้าไปบอกพ่อเฒ่าอ่ำอีก ว่า
“ที่พ่อเฒ่าได้กลิ่นตด ก่ะแสดงว่า พ่อเฒ่าสวมแมสบ่มีคุณภาพเด้อ!”