Category

บทกวี

“แตกเมือง”

ปิดกรุงเทพฯเคอร์ฟิวประเทศไทย โรคห่าระบาดใหญ่ปีหกสาม โลกมนุษย์โควิดขวิดลุกลาม ศึกหนักกว่าสงครามมหันตภัย ผู้นำจิตวิญญาณการ’แตกบ้าน’ ออกมาขานกวักมืออยู่ไหวไหว “กลับมาเถิดกลับบ้านดินแดนไกล หมู่บ้านไม่ไร้ญาติขาดพี่น้อง สมบูรณ์ด้วยปูปลามีผักหญ้า อาหารป่ามากมายได้สนอง อาทิตย์จันทร์ดวงดาวเราครอบครอง เทือกภูสูงห้วยหนองก็ของเรา”

สายธารวรรณศิลป์

๑. ไหลบ่าอารมณ์ที่บ่มเพาะ ลัดเลาะเกาะแก่งแอ่งหินผา เลี้ยวลดคดโค้งโยงสายมา สุดหล้าฟ้าไกลไม่สิ้นมนต์ ๒. เรียงร้อยสร้อยรักอักขระ เพื่อจะปลอบปลุกทุกแห่งหน กล่อมเกลาฤดีที่ทุกข์ทน หลุดพ้นนิยามความหลอกลวง

บทกวี โบยบินจากความกลัว

หรือคุณซ่อนตัวอยู่ในนั้น ณ ที่มีความฟุ้งฝันขลาดเขลา หลบเร้นใต้มุมอับสลัวเงา มิอาจที่จะเอาชนะความกลัว นานเท่านานลืมกาลเวลา เคยไหม...เยี่ยมมองฟ้าถ้วนทั่ว ถึงแดดสาดแสงไล่ความมืดมัว หม่นหมองในตัวยังกักขังกลืนกิน

คำผญา (๑๘)

“ความตายนี่แขวนคอทุกบาดย่าง ไผก็แขวนอ้อนต้อนเสมอด้ามดั่งเดียว” ความตายนี้แขวนคอทุกย่างก้าว ใครก็แขวนไว้เสมอว่าเป็นสิ่งเดียวกัน

ส่องซอด ทางอีศาน ฉบับที่ 14

จอกหนึ่ง พอซิกริกจอกสอง พอแซกแรกจอกสาม พอแปลกความจอกสี่ หลงพี่หลงน้องจอกห้า เห็นป้าว่าแม่นเมียจอกหก ชกปากพ่อเฒ่าจอกเจ็ด แกล้มเป็ดแกล้มไก่จอกแปด ฟ้อนตากแดดว่าแม่นฝนตกรินจอกเก้า ข้าวอยู่เล้านึกอยากขายเกวียนละบาทก็ขายจอกสิบ หลิบพุ้นหลิบพี้จอกสิบเอ็ด ตึ่งลึ่งตึ่ง

บทร้อยกรองของพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ ๒๕-๒๘

๒๕. ชายโสภาใจเย็นนักปราชญ์ ชายฉลาดหลีกเว้นคนผิด คนใช่มิตรผูกจ่องกรรมเวร คนมีเข็ญหาคุณบ่ได้ คนทุกข์ใฮ่เกี่ยวหญ้าหาฟืน บ่ฝ่าฝืนผิดเถียงดูหมิ่น ๒๖. คิดสู่ถิ่นทั่วโลกโลกา กะปูนาหาหัวบ่ได้ ไผหาให้เลี้ยงท้องเขาเอง พวกสัปโปงูเขียวงูเห่า ขึ้นต้นไม้เสือกแล่นตามดิน ตีนบ่มีแล่นไวปานม้า...

บทกวี: จุดบั้งไฟยังไล่ล่า…

๏ ไฟบั้งเอ้อลังการตระการตา เชิดนาคาพ่นน้ำอร่ามล้น นางฟ้อนย้อนย้ายร่ายร่างทน เซิ้งขอฝนขอรางวัลขันแข่งนั้น หลายร่างชายป้ายแป้งแดงลิปสติก ทำซิกงิกจริตหญิงยิ่งน่าขัน บ้างหาบขยะกับตะกร้าควัน แต่งเพี้ยนกันพลันนึกพิลึกดี โชว์ปลัดขิกอีกเกมสมสู่ ทุกคุ้มสู้ลุ้นรางวัลพนันชี้ ต่างมึนเมาเหล้ายาประชาชี หมกมุ่นมีผีพนันพันละเก

กาพย์ไขโคลงลาวเดิม : ไม้จัน

๏ ไม้จันแห้งแล้วตัด หอบมา แม่นฮู้ว่าผู่สีลา บ่บ้าง ซอยออกเป็นเฝื้องฝา ยังยิ่ง ลูกตะกุนแม่นทุกอ้าง บ่ห่อนม้างบัดสี ฯ (กาพย์ไขโคลง) ๏ ต้นจันแห้งกลางป่า...คนใช้พร้าโค่นตัดลง แบกหามจากป่าดง.....สู่บ้านช่องท้องถิ่นตน ๏ ท่อนใหญ่ให้กลิ่นหอม...ลูกหลานล้อมแบ่งตัดจน...

บทกวี หินหายใจ

เมื่อหินไม่ใช่หิน แอบซ่อนศิลปะเสริม ธาตุแท้แต่ดั้งเดิม ได้พูนเพิ่มเติมความหมาย เหลือซากร่วมฝากทรง ความสูงส่งแห่งผงทราย แตกดับเกินลับหาย แตกช่อลายขึ้นหายใจ

ด่านเจดีย์สามองค์

อีกหนึ่งด่านด้าวแดนดง กลางพงไพรเถื่อนเทือกเขา ผู้คนตั้งมั่นภูมิลำเนา ขีดเส้นแหว่งเว้าเข้าครอง ทางเทียวพม่ารามัญ กะเหรี่ยงสัมพันธ์ไทยผอง ค้าขายคู่ศึกปรองดอง ยอกย้อนซ้อนทับนับกาล คือด่านเจดีย์สามองค์ ยังคงเรื่องเก่าเล่าขาน สุดเขตประเทศตำนาน สื่อสารถูกผิดพลิกแพลง หวังแสงศรัทธาปรากฏ สิ้นหมดกดแบ่งแก่งแย่ง พลังปัญญาสำแดง ทุกหัวระแหงแหล่งธรรม.
WP2Social Auto Publish Powered By : XYZScripts.com