ผีบ้าตาวอด : ผีน่ากลัวในฤดูดอกทองกวาวบาน
ในเทศกาลดอกทองกวาวบาน ดอกงิ้วบานกลางนา ท้องทุ่งนาล้านนามีมนต์เสน่ห์อย่างยิ่งเด็ก ๆ ชอบไปเล่นแถวดงต้นทองกวาว ต้นงิ้ว จนเลยเวลาอันควรจะเข้าบ้านเข้าเรือน พวกผู้ใหญ่จึงสร้าง “ผี” ขึ้นมาเพื่อให้เด็ก ๆ กลัว ไม่กล้าไปเล่นแถวดงทองกวาว ต้นงิ้ว จนเย็นยํ่า
ผีนั้นเรียกกันว่า ผีบ้าตาวอด “ผีบ้าตาวอด เป็นครึ่งคนครึ่งผีหรืออมนุษย์จำพวกยักษ์ อวัยวะส่วนที่เป็นตาของมันนั้นดูเหมือนตาบอด แต่มันไม่บอด ในความเป็นจริงแล้วสามารถมองเห็นได้ดี เพียงแต่มันไม่มีแววตาอันเป็นคุณสมบัติของอมนุษย์จำพวกยักษ์
พวกผีบ้าตาวอดนี้จะมีถุงหรือย่ามขนาดใหญ่เท่ากระสอบข้าวสารประจำกายอยู่เสมอ เพราะมันชอบลักพาเอาเด็กที่มักเล่นอยู่ตามลำพัง
ฤดูกาลที่ผีบ้าตาวอดชอบลักพาเด็กมากที่สุดคือในช่วงต้นฤดูแล้ง ขณะที่ดอกทองกวาวและดอกงิ้วบานสะพรั่งอวดสีส้มสดและสีแดงเพลิงที่ร่วงหล่นอยู่ตามทุ่งนาหรือไร่สวนที่ไร้ผู้คนสัญจรเป็นช่วงที่เด็ก ๆ มักออกไปเล่นในที่ไกลตาหรือที่ลับตาคน โดยเฉพาะการไปเก็บดอกงิ้ว เชื่อกันว่าผีบ้าตาวอดมักจะถือโอกาสแอบมาลักพาเด็ก โดยการจับเด็กมัดเท้าใส่ในถุงแล้วแบกขึ้นบ่าไป หากเด็กร้องโวยวายก็จะใช้ผงปูนขาวซัดเข้าปาก ทำให้เกิดอาการแสบร้อนจนเด็กร้องไม่ออก เด็กที่ผีบ้าตาวอดลักพาไปจะถูกนำไปเป็นเครื่องเซ่นบูชายัญ “ขุมเงินขุมฅำ” (บ่อเงินบ่อทอง) โดยผีบ้าตาวอดจะจับเด็กนั้นโกนหัว โกนคิ้ว จนเกลี้ยงเกลา จากนั้นจึงชำระขัดถูร่างกายของเด็กให้สะอาด โดยใช้ใยลูกบวบขัดถูอย่างแรง ซึ่งอาจทำให้ผิวหนังถลอกและปวดแสบแสนทรมาน แล้วทาขมิ้นให้เด็กจนเหลืองทั่วตัว เด็กจะได้รับการเลี้ยงดูด้วยอาหารอย่างอิ่มหนำสำราญก่อนจะถูกให้ขับซอแบบล้านนา ราวกับจะให้เด็กนั้นมีความสุข ลืมความทุกข์ทรมานที่จะได้รับจากการลงมือฆ่า จากนั้นผีบ้าตาวอดจะลอบไปด้านหลังเอาดาบฟันผ่าลงกลางศีรษะเป็นการสิ้นสุดขั้นตอนการเซ่นสังเวยของ ผีบ้าตาวอด เรื่องผีบ้าตาวอดทางล้านนานี้เล่าขานเป็นตำนานสืบมาจนเหมือนเป็นนิยายปรัมปราหลอกเด็กไม่ให้ซุกซน ดื้อดึง เมื่อถูกตักเตือนว่าอย่าไปเล่นไกล ไม่เช่นนั้นผีบ้าตาวอดจะจับไปฆ่าไม่ได้กลับมาอีก”
ข้างต้นเป็นเรื่องของผีบ้าตาวอดยุคโบราณ มาถึงยุคปัจจุบันภัยจากผีบ้าตาวอดก็ยังไม่หมดไป ผีบ้าตาวอดยุคนี้ก็คือแก๊งค้ามนุษย์ ที่ลักพาตัวเด็กไปขายซึ่งขณะนี้มีข่าวเกิดขึ้นประจำทุกเดือน ผู้ปกครองจำเป็นต้องระมัดระวัง และสั่งสอนเด็กให้ระมัดระวังคนแปลกหน้าเสมอ “อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคนโดยเฉพาะคนแปลกหน้า”
สำหรับคำว่า “ผีบ้าตาวอด” ในภาษาล้านนานั้น นอกจากหมายถึงอมนุษย์ดังกล่าวข้างต้นแล้วยังมีความหมายหมายถึงคนพิการตาบอดที่งุ่มง่ามดูราวคนบ้า ผีบ้าตาวอด แบ่งเป็น ๒ คำ คือ “ผีบ้า” และ “ตาวอด” ผีบ้า หมายถึง คนบ้า คนเสียสติ ส่วนตาวอด หมายถึงตาบอด เฉพาะคำว่า วอด หมายถึงดับ ที่มักใช้กับสิ่งอันเป็นคุณภาพของสายตาที่เรียกว่า “ไฟตา” เรียกคนที่มีคุณภาพของสายตาเสื่อมว่า“คนเสียไฟตา” คือไฟตาเสื่อมคุณภาพ อาจมองเห็นไม่ชัด เมื่อสายตาเสื่อมจนถึงขั้นบอด ก็คือ คนไฟตาดับหรือตาวอดนั่นเอง ผีบ้าตาวอดในความหมายนี้ได้แก ่ คนตาบอดที่มีอาการงุ่มง่ามเหมือนคนบ้า หรือคนที่มีบุคลิกเป็นที่น่าสังเวชแก่ผู้พบเห็นโดยทั่วไป
(อ้างอิงข้อมูลของ “สนั่น ธรรมธิ” สำนักส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่)