คำผญา (๑๘)

“ความตายนี่แขวนคอทุกบาดย่าง

ไผก็แขวนอ้อนต้อนเสมอด้ามดั่งเดียว

 

ความตายนี้แขวนคอทุกย่างก้าว

ใครก็แขวนไว้เสมอว่าเป็นสิ่งเดียวกัน

ความหมาย

ความประมาท คือ หนทางแห่งความตาย พระพุทธศาสนาสอนไว้อย่างนี้

ปราชญ์อีสานท่านสอนว่า ความตายนี้แขวนคอทุกย่างก้าว ใครก็แขวนไว้เสมอว่าเป็นสิ่งเดียวกัน เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เถียงไม่ได้ เป็นความจริงที่สิ้นสุด ไม่ต้องไปสืบค้น ไม่ต้องพิสูจน์

หน้าเห็นจั่งว่ายัง เห็นหน้าจึงว่ายังมีชีวิตอยู่ ถ้าไม่ได้เห็นหน้าก็ไม่แน่ใจว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เพราะความตายไม่ได้เลือกคนดี คนเลวคนรวย คนจน ทุกคนมีโอกาสตายเท่ากันและมีโอกาสตายได้ทุกเวลา

แม้ว่าความตายเป็นสัจจะ แต่พระก็สอนไม่ให้ประมาท ที่ไม่อยากให้ประมาทก็เพราะไม่อยากให้ตายเร็ว ตายโดยไม่รู้ตัว ตายโดยที่ยังไม่ได้สร้างประโยชน์อะไรแก่ใคร ตายในเวลาอันไม่สมควรและไม่มีใครอยากตาย

คนสังคมอุตสาหกรรมมีโอกาสตายเร็วกว่าสังคมเกษตรกรรม และมักจะตายโหงเสียด้วย

ตายโหง ก็คือ ตายดิบ ตายทั้งที่ยังไม่แก่ชรา ตายโดยไม่ป่วยไข้ ตายเพราะถูกฆ่า ตายเพราะอุบัติเหตุ รถทับตาย ตกจากที่สูง

คนในสังคมอุตสาหกรรมมีมาก มีล้นเมืองล้นประเทศ ของกินมีน้อย ที่อยู่อาศัยมีจำกัดจึงแย่งกันหาอยู่หากิน กลายเป็นคนเห็นแก่ตัว ตัวใครตัวมัน จิตใจโหดร้ายอำมหิต สุมด้วยไฟร้อนตลอดเวลา ทั้งโลภะ โทสะ โมหะ พร้อมที่จะเข่นฆ่าทำลายผู้อื่นเพื่อให้ตัวเองมีชีวิตรอด เข้าลักษณะ รูจั้กเอาตัวรอดเป็นยอดดี ดังที่กวีระดับโลกสอนไว้

บางคนไม่ได้โกรธใคร ไม่ได้ทะเลาะกับใครไม่ได้เป็นศัตรูกับใคร ก็ต้องตายเพราะถูกลูกหลงทำงานอยู่ดี ๆ ตึกก็ถล่มลงทับ หรือไฟไหม้ครอกตาย นอนอยู่ดี ๆ โรงแรมก็ถล่มลงทับ ภัยจากธรรมชาติก็โหดร้ายกว่าเก่าเพราะคนไปทำลายธรรมชาติก่อน ทั้งลมพายุ ทั้งคลื่นพิบัติ แผ่นดินไหว

เดินบนฟุตปาธก็มีสิทธิ์ตายบนฟุตปาธ เดินข้ามถนนก็มีสิทธิ์ตายบนถนน เดินบนสะพานลอยก็มีโอกาสตายก็มีสิทธิ์ตายบนสะพานลอยนั่งกินอาหารอยู่ในร้านก็มีสิทธิ์ตายในร้านอาหาร ฯลฯ คนเลว คนบริสุทธิ์ก็มีสิทธิ์ตาย

ที่ยังไม่ตายทันทีก็ต้องตายผ่อนส่ง อาจจะไม่เรียกว่าตายโหง แต่ตายเพราะเจ็บไข้ได้ป่วย

ปัจจุบันนี้โรคภัยไข้เจ็บแปลกประหลาดและมากกว่าเก่า ใครจะอยากเชื่อว่า กินเป็ดกินไก่ก็มีสิทธิ์ตายด้วยโรคไข้หวัดนก ไปทำไร่ไถนาจะตายเพราะโรคฉี่หนู

กินข้าว กินผัก ก็ต้องตายผ่อนส่งเพราะสารเคมี พืชนานาชนิดในปัจจุบันเกิดมาจากแผ่นดินที่อาบยาพิษ แผ่นดินไทยเต็มไปด้วยยาพิษที่มาจากปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง พวกสัตว์ไม่ว่าจะเป็น เป็ด ไก่ หมู กบ ปลา ก็เลี้ยงด้วยอาหารที่มาจากสารเคมี สารเคมีตกค้างในนํ้า ในข้าว ในผัก ในเนื้อสัตว์ เราจึงบริโภคสารเคมีเข้าไปวันแล้ววันเล่าและก็รอวันตาย ความตายนี้แขวนคอทุกย่างก้าว ใครก็แขวนไว้เสมอว่าเป็นสิ่งเดียวกัน

เราอยู่ท่ามกลางความประมาท แม้เราไม่ประมาทคนอื่นที่ประมาทก็ทำให้เราตายได้เหมือนกัน เช่น คนเมาขับรถมาชนเรา ทั้งที่เราไม่ได้เมา ไม่ได้ประมาท เราก็บาดเจ็บหรือตาย, ทำมาหากินอยู่ดี ๆ ก็มีผู้ก่อการร้ายมาเข่นฆ่า ทั้งที่เราไม่รู้เรื่องอะไรด้วย เช่น กรณีเหตุการณ์สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ คนบริสุทธิ์ถูกฆ่าตายไม่น้อย

พระสอนว่า ความประมาท คือ หนทางแห่งความตาย ไม่แน่ใจว่าจะเป็นจริงหรือไม่เพราะคนไม่ประมาทก็ตายได้เหมือนกัน ตายเพราะคนประมาท ฉะนั้น คนประมาทและคนไม่ประมาทต่างก็มีความตายแขวนคอไว้ทุกย่างก้าว

เรื่องตายนั้น ถึงอย่างไรเราก็ต้องตายอยู่แล้ว แต่ทำอย่างไรเราจึงจะตายด้วยวัยอันสมควรคือ ไม่ด่วนตายเพราะถูกทำร้าย ไม่ด่วนตายเพราะอุบัติเหตุ ไม่ตายเพราะพิษภัยมาจากอาหาร เราจะป้องกันได้อย่างไร

เวลาถึงช่วงเทศกาล วันปีใหม่ วันตรุษจีน วันสงกรานต์ หน่วยงานรัฐก็พยายามเหลือเกินที่จะแก้ปัญหา ที่จะป้องกันไม่ให้เราตายเพราะอุบัติเหตุ แต่กระนั้นก็ตายปีละหลายร้อยรายบาดเจ็บนับหมื่นราย

ทำอย่างไรทุกคนจึงจะไม่ประมาทพร้อม ๆ กัน ปลงเสียเถอะ

Related Posts

สรุปย่อรากเหง้าร่วมของวัฒนธรรมอาเซียน
วัดหลวงปากเซ การประสมประเสที่น่าทึ่ง
ยาพิษแสลงใจ
WP2Social Auto Publish Powered By : XYZScripts.com