ฮูปแต้มวัดมหาธาตุ อำเภอเชียงคาน
วัดมหาธาตุ อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย ตั้งอยู่ใกล้ริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่บ้านเชียงคาน (บ้านท่านาจันทร์เดิม) ประวัติการก่อสร้างไม่ชัดเจนทราบเพียงว่า พญาศรีอรรคฮาด จากหลวงพระบาง ได้มาตั้งบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำโขง แล้วสร้างวัดมหาธาตุขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๑๙๗ ต่อมามีการสร้างวัดใหญ่ (วัดศรีคูณเมือง) ขึ้นทางเหนือของวัดมหาธาตุ
เมื่อเปรียบเทียบลักษณะสิมของวัดมหาธาตุ พบว่ามีลักษณะคล้ายคลึงกับสิมวัดศรีคูณเมือง ซึ่งสิมวัดศรีคูณเมืองนี้มีจารึกบอกปีที่ก่อสร้าง คือ “จุลศักราชได้ ๑๑๙๙ ตัว ปีกัดเลาเดือน ๔ เพ็งวัน ๔ ฯ…”
ตรงกับ พ.ศ.๒๓๘๐ จึงสันนิษฐานว่าสิมวัดมหาธาตุน่าจะสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ยุคสมัยเดียวกับสิมวัดศรีคูณเมือง ซึ่งก็สอดคล้องกับเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ในรัชกาลที่สาม คือเมื่อประมาณ พ.ศ.๒๓๗๐ หลังสงครามปลดแอกของเจ้าอนุวงศ์ มีการกวาดต้อนผู้คนจากเมืองเชียงคานเดิม (ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง ปัจจุบันคือเมืองสานะคาม) มาไว้ฝั่งขวา โดยตอนแรกให้ตั้งเมืองใหม่ขึ้นที่ปากนํ้าเหือง แต่เนื่องจากเป็นภูดอย จึงย้ายเมืองมาอยู่ที่บ้านนาจันทร์คืออำเภอเชียงคานปัจจุบัน สร้างวัดมหาธาตุและตั้งเสาหลักเมืองในบริเวณวัดนั้นเอง
ปัจจุบันมีวิหารเก่าชำรุดทรุดโทรมมาก ผนังนอกด้านหน้าบริเวณเหนือกรอบประตูส่วนที่เป็นจั่ว ยังปรากฏภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพระเวสสันดรชาดก
จิตรกรรมนี้ใช้สีแดงเหลืองเป็นพื้น ต่างไปจากฮูปแต้มอีสานโดยทั่วไปที่นิยมใช้สีครามน้ำเงินเป็นพื้น ซึ่งลักษณะการเขียนภาพใช้สีแดงนี้ เป็นประเพณีนิยมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยอยุธยา จนถึงสมัยรัชกาลที่สาม หรือต้นรัชกาลที่สี่
เทคนิคการระบายสีนั้นจะใช้สีแดงฉ่ำเป็นพื้นหลัง และสีเหลืองดินในส่วนที่เป็นปราสาทราชวัง แสดงสัดส่วนของช่อฟ้าใบระกาและกระเบื้องดินขอด้วยการตัดเส้นสีดำ มีการระบายสีเขียวที่หลังคาในบางส่วน
วาดโขดเขาและต้นไม้ด้วยสีเขียว การระบายสีต้นไม้ใช้เทคนิคประเปลือกไม้และตัดเส้นที่พุ่มใบ เป็นเทคนิควิธีการเขียนภาพที่นิยมกันในสมัยรัชกาลที่ ๔ ตอนปลาย เข้าใจว่าเทคนิคนี้คงจะนำมาจากช่างจีน
ภาพเทวดาและตัวพระตัวนางใช้สีเหลืองเป็นพื้น ตัดเส้นเครื่องทรงที่เป็นชฎา มงกุฎ ด้วยสีดำ
ส่วนตัวกากที่เป็นไพร่บ้านพลเมือง โดยมากจะปล่อยเป็นพื้นที่ว่างสีขาว ตัดเส้นเสื้อผ้าและหน้าตาด้วยสีดำ มีบางส่วนที่ระบายสีเสื้อผ้าด้วยสีเขียวหรือแดง การแสดงสีหน้าและอารมณ์ของผู้คน ช่างแต้มทำได้ดีพอใช้
ภาพสัตว์ในจิตรกรรมนี้นับเป็นผลงานชั้นเยี่ยม โดยเฉพาะภาพช้างปัจจัยนาเคนทร์ ภาพเผ่นโผนโจนทะยานของม้า ภาพกระต่าย เป็นต้น
ภาพจิตรกรรมชุดนี้ชำรุดมาก กำลังอยู่ในระหว่างการบูรณะจากกรมศิลปากร
[ข้อมูลและภาพจาก “สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคอีสาน (ฉบับเพิ่มเติม) เล่ม ๓” วิมล เขตตะ เรียบเรียง]
***
คอลัมน์ ฮูปแต้มอีศาน นิตยสารทางอีศาน ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๕๐ | มิถุนายน ๒๕๕๙
.
ราคาเล่มละ ๑๐๐ บาท
สมัครสมาชิก ครึ่งปี ๖๐๐ บาท
หนึ่งปี ๑,๑๐๐ บาท
ตลอดชีพ ๙,๕๐๐ บาท (ได้รับหนังสือย้อนหลัง)
.
สั่งซื้อ// ชำระเงิน // สอบถามเพิ่มเติม ได้ทาง
inbox หนังสืออีศาน m.me/166200246799901
line id : @chonniyom (มี@) คลิก https://lin.ee/amxqtvW
อีบุค ที่ www.mebmarket.com
โทร. 086-378-2516
บริษัท ทางอีศาน จำกัด
244/539 รามอินทราซอย 5 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. 10220