จุ้มใบ-พระราชโองการ ของกษัตริย์หลวงพระบาง
ในบรรดาใบจุ้มทั้งหมดในหอสมุดแห่งชาติของไทย ที่มีทั้งเขียนบนกระดาษและผ้าฝ้าย จำนวนกว่า ๖๙ ฉบับ มีใบจุ้มฉบับหนึ่ง เป็นใบจุ้มเลขที่ ๘ ลงศักราชไว้ ๑๒๐๐ ตัว(จุลศักราช) หรือพุทธศักราช ๒๓๘๑ ราวรัชสมัยเจ้าสุกเสริม แห่งอาณาจักรล้านช้างหลวงพระบาง
จุ้มหรือตราราชลัญจกร สมัยล้านช้าง
จุ้มหรือตราราชลัญจกร สมัยพระเจ้าสุริยวงศาธรรมิกราช ซึ่งเป็นกษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุดของอาณาจักรล้านช้าง ตั้งแต่ พ.ศ.๒๑๘๑-๒๒๓๘ ระยะเวลากว่า ๕๗ ปี ถือเป็นกษัตริย์ล้านช้างอีกองค์หนึ่งที่ทำให้อาณาจักรล้านช้างมีเจริญความรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก ทั้งฝ่ายอาณาจักรและศาสนจักร
ความเป็นมาพระแก้วมรกต (พระแก้วเขียว)
หากยึดตามตำนานพระแก้วมรกตนั้น ว่ากันว่าสร้างตั้งแต่ราว พ.ศ.๕๐๐ โดยพระนาคเสน ที่เมืองปาฏลีบุตร แล้วมีการโยกย้ายองค์พระไปยังอีกหลายที่ ซึ่งผมมีความเห็นว่าเป็นตำนานที่แต่งเติมกันขึ้นมาภายหลัง เนื่องด้วยพระแก้วมรกตนี้เป็นพระพุทธรูปสกุลช่างเชียงแสน น่าจะมีอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๙-๒๐ และเป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในแถบหัวเมืองเหนืออย่างแน่นอน
ชุมชนลาวในภาคกลางของสยาม (๑๔)
สงครามเริ่มต้นด้วย กองทัพของพระยาพิชัยนำกำลังพล 500 คน บุกตีค่ายญวนที่เมืองโสย ทัพพระยาพิชัยฆ่าทหารญวนได้ทั้งหมดจำนวน 200 คน พอเวลาเย็น กองทัพพระยาสุโขทัย พระยาพิชัย และกองทัพใหญ่พระยาสวรรคโลก ก็เคลื่อนทัพเข้าเมืองโสย พอดีค่ำๆเจ้าเมืองพวนก็ส่งหนังสือมาแจ้งว่า กองทัพพระราชวรินทร์ก็ได้เข้าเมืองพวนมาตั้งแต่ เดือนสามแรมสิบสามค่ำแล้ว
ชุมชนลาวในภาคกลางของสยาม (๑๓)
หลังจากสยามยกทัพใหญ่ทั้งทัพบกและทัพเรือไปตีญวนหรือเวียดนามในปี พ.ศ. ๒๓๗๖ ดังได้กล่าวไปแล้ว สงครามครั้งนั้นแม้สยามจะเกณฑ์ไพร่พลไปมากถึง ๑๒๐,๐๐๐ คน(ส่วนมากเป็นพลทหารลาว เขมร มอญ มลายู แขกจาม ทหารตะวันตกรับจ้าง) แต่ก็ต้องประสบกับความพ่ายแพ้ถอยกลับอย่างไม่เป็นขบวน ด้วยไม่ชำนาญในพื้นที่
ปราสาทสัจธรรม
บ่อยครั้งที่เคยเห็นคนไทย (ซึ่งรวมถึงตัวเราเองด้วย) ไปยืนตะลึงพรึงเพริศในความงดงามอลังการของอัครโบราณสถานหลายแห่งในต่างประเทศ วันก่อนจึงปีติอยู่ลึกๆ เมื่อได้เห็นชาวยุโรปกลุ่มหนึ่ง กำลังตะลึงในความงามอย่างวิจิตรตระการตา ของปราสาทสัจธรรม ณ เมืองพัทยา
ชุมชนลาวในภาคกลางของสยาม (๑๒)
คลองมหานาคนี้ขุดขึ้นโดยเชลยลาว เขมร ซึ่งถูกกวาดต้อนมา แล้วนำมาเป็นแรงงานในการขุดคลอง สร้างแปลงพระนคร หลังจากนั้นราวปีพ.ศ.๒๓๒๙ ทัพสยามนำกำลังเข้าตีนครรัฐปัตตานี หัวเมืองมลายู นำเชลยศึกชาวมุสลิมจำนวนมากเข้ามายังกรุงเทพฯ รวมทั้งชาวมุสลิมแขกจามที่นำมาจากสงครามกับกัมพูชาด้วย
ชุมชนลาวในภาคกลางของสยาม (๑๑)
ทัพของเจ้าพระยาธรรมาธิบดี(สมบุญ) ซึ่งรัชกาลที่๓ โปรดให้เป็นแม่ทัพคุมกำลังพลกรุงเทพฯและหัวเมืองเหนืออันได้แก่ เมืองพิษณุโลก 1,000 คน เมืองสวรรคโลก 500 คน เมืองสุโขทัย 600 คน เมืองพิจิตร 140 คน เมืองพิชัย 500 คน ปากเหือง 200 คน กองทัพเมืองเพ็ชรบูรณ์ เมืองหล่มศักดิ์ เมืองแก่นท้าว เมืองเลย
ชุมชนลาวในภาคกลางของสยาม (๑๐)
วันนี้มาต่อกันที่กองทัพของพระมหาเทพ(ป้อม) เจ้ากรมพระตำรวจ รัชกาลที่ ๓ ทรงโปรดเกล้าฯให้เป็นแม่ทัพฝ่ายตะวันออกยกทัพไปตีเวียดนามทางเหนือ(เหงะห์อาน) ในปีพ.ศ.๒๓๗๖ โดยยกทัพออกจากกรุงเทพฯพร้อมกับทัพเจ้าพระยาบดินทรเดชา(สิงห์) นำกำลังจากกรมพระตำรวจ ๔,๐๐๐ คน ไปรวบรวมกะเกณฑ์ไพร่พลหัวเมืองลาวตะวันออกอีก ๑๐,๐๐๐ คน
กำแพงกร๋อม
เคยพบ หินก่อล้อม ยุคโบราณมากมายหลายแห่งในแถบลำพูน-เชียงใหม่ อาทิ โบราณสถานดอยไซ (ต.ป่าสัก อ.เมือง จ.ลำพูน) เวียงเจ็ดลิน (ตีนดอยสุเทพ) ม่อนฤๅษี (ที่อ.แม่ออน เชียงใหม่) ล้วนแล้วแต่เก่าคร่ำนับพันปี เพราะเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ยุคต้นหริภุญไชยหรือไม่ก็เรื่อง ฤษี-มุนี หรือไม่ก็ ชาวลัวะ แทบทั้งสิ้น แต่ในตำนานกลับเรียกว่า กร๋อม หรือ กล๋อม
ชุมชนลาวในภาคกลางของสยาม (๙)
ความต่อจากครั้งที่แล้ว ก่อนที่ผมจะลงรายละเอียดการรบระหว่างกองทัพสยามกับกองทัพญวนที่คลองวามนาวในปีพ.ศ.๒๓๗๖ ขอเล่าถึงกองทัพหน้าของเจ้าพระยานครราชสีมาก่อนครับ ซึ่งเป็นกองทัพหนึ่งที่รวบรวมกะเกณฑ์ไพร่พลจากหัวเมืองลาวได้ประมาณ ๒๐,๐๐๐ คน แล้วยกลงมาเมืองเสียมเรียบของเขมร ทัพนี้เป็นทัพหน้า โดยมีทัพของเจ้าพระยาบดินทรเดชาเป็นทัพหลวง
ชุมชนลาวในภาคกลางของสยาม (๘)
ก่อนจะเล่าการสงคราม อานามสยามยุทธ์ ในปี พ.ศ.๒๓๗๖ จำเป็นต้องเล่าความสำคัญของเมืองพุทไธมาศหรือฮาเตียน ให้ท่านได้ทราบก่อนว่า เมืองพุทไธมาศนี้ในอดีตเป็นเมืองของเขมร เรียกกันว่าบันทายมาศ จากนั้นเขมรได้เสียดินแดนนี้ รวมถึงเมืองไซ่ง่อนให้แก่เวียดนาม ทำให้เวียดนามมีอิทธิพลมาถึงแหลมญวน ในราวปลายกรุงศรีอยุธยาญวนเวียดนามได้ขุดคลองจากเมืองพุทไธมาศ
ชุมชนลาวในภาคกลางของสยาม (๑)
ในอดีตนั้นอาณาจักรอยุธยาถือว่าเป็นอาณาจักรบ้านพี่เมืองน้องกับอาณาจักรล้านช้าง อันถือเป็นแผ่นดินแม่ของกลุ่มคนไท-ลาวก็ว่าได้ เหตุเพราะทั้งไทยและลาวก็ล้วนเป็นลูกหลานขุนบรม ซึ่งทั้งสองฝ่ายเข้าใจกันดี แม้นช่วงหนึ่งของหน้าประวัติศาสตร์พระเจ้าฟ้างุ้มทรงรวบรวมแผ่นดินลาวให้เป็นปึกแผ่นและยาตราทัพเข้าใกล้ชายแดนอาณาจักรอยุธยา พระเจ้าอู่ทองแห่งอาณาจักรอยุธยาถึงกับส่งสาส์นมาขอเป็นไมตรี
สายแนน กกแนน จากตำนานขูลูนางอั้ว
กกแนนเกี่ยวพันกันจึงนำจ่อง ปลายหากเนิ้งหนีเว้นจากกัน มียอดด้วนกุดขาดตายใบ หนองวังบกขาดลงเขินท้าง อันหนึ่งน้ำบ่อแก้วเหลือตลิ่งหนองหลวง กลายเป็นแหนหนามจอกขาวตันท้าง
“รอยทาง เจริญธรรม” กาญจนบุรี
ภาพบันทึกการเดินทาง แถลงข่าวหนังสือ"รอยทาง เจริญธรรม" 13-15 มิ.ย. 2557 และตามรอยอนุสรณียสถาน"สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช" ที่จังหวัดกาญจนบุรี กับ "กลุ่มกล้องกับปากกา ด้วยดวงตาและหัวใจ" โดย สงคราม โพธิ์วิไล, สมปอง ดวงไสว, ธีรภาพ โลหิตกุล และที่ปรึกษา-ประสานงาน กิติมาภรณ์ จิตราทร