จากแนวคิดวัฒนธรรมชุมชน สู่สังคมการปกครองตนเอง
ขณะที่ในกระแสการพัฒนาทั่วโลกที่ชี้นำด้วยอุดมการณ์ทุนนิยมเสรีนั้น สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ก็คือการล่มสลายของชุมชนเกษตรกรรม สังคมชุมชนถูกแยกสลายไปเป็นสังคมใหม่ที่นับถือคุณค่าปัจเจกนิยม การจัดตั้งทางสังคมก็เป็นการจัดตั้งกลุ่มองค์กรและเครือข่ายรายรอบโรงงานอุตสาหกรรมและย่านพาณิชยกรรม และเกิดสิ่งที่ ?โชติช่วง นาดอน? เรียกว่า กลุ่มผลประโยชน์ย่อยใหม่ ๆ ขึ้นมาอย่างหลากหลาย
สัญชาติลาวกลายเป็นไทยในบังคับสยาม
เรื่องนี้ผมจะยังไม่ปักใจเชื่ออย่างหนึ่งอย่างใดลงไป เพียงแต่รับฟังไว้เป็นข้อมูล จากมุมมองของคนต่างประเทศ ยังต้องนำมาใคร่ครวญให้สมเหตุสมผลต่อไปอีก เพราะผมคิดว่าการสืบค้นประวัติศาสตร์จะต้องกระทำด้วยท่าทีของผู้ซึ่งบรรลุวุฒิภาวะ โดยเฉพาะในคนรุ่นใหม่ ไม่บังควรทำให้การศึกษาประวัติศาสตร์เป็นการสร้างความขัดแย้งใหม่ ๆ จากความขัดแย้งเก่าในประวัติศาสตร์ แต่ควรศึกษาประวัติศาสตร์ความขัดแย้งในอดีตเพื่อเก็บรับเป็นบทเรียน เพื่อจะได้กำหนดท่าทีต่ออนาคตได้อย่างเหมาะสม
ผีบุญ ศึกษาอดีตเพื่อเข้าใจปัจจุบัน
ผู้นำผีบุญส่วนใหญ่สร้างความเชื่อถือในหมู่ชาวบ้านด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับความสามารถพิเศษต่าง ๆ อันเป็นคุณสมบัติของผู้วิเศษที่มากอบกู้ผู้คนให้พ้นทุกข์ ตั้งแต่การรักษาโรคด้วยเวทย์มนต์คาถายาวิเศษ รวมถึงการแก้ปัญหาทางสังคมอื่น ๆ ในหมู่ชาวบ้าน กลายเป็นข่าวเล่าขานต่อ ๆ กันไป
ตระกูลภาษา “ไท-กะได” กับ ไป่เยวี่ย
ปัจจุบันนี้ วงวิชาการยอมรับกันแล้วว่าชน “ไป่เยวี่ย” สายหนึ่งเป็นบรรพชนของชนชาติในตระกูลภาษา ไท-กะได ก็เลยเกิดปรากฏการณ์ มีการไปเรียกพวกไป่เยวี่ย สาขาที่อยู่ตอนเหนือ คือ แถบเจ้อเจียง-เซี่ยงไฮ้ (เรื่องราวของ โกวเจี้ยน ฟูไช นางไซซี) ว่าเป็นคนไท/ไต
ชุมชนลาวในภาคกลางของสยาม (๒)
สงครามระหว่างพม่าและอยุธยาในปี พ.ศ.๒๓๑๐ ทำให้อาณาจักรอยุธยาถึงกาลสูญสิ้น การยกทัพของพม่าในครั้งนี้ตีกระนาบกรุงศรีอยุธยาทั้งจากทิศเหนือและทิศใต้ โดยตีหัวเมืองเหนือและกวาดต้อนผู้คนลงมาตั้งแต่เชียงตุง เชียงใหม่ ลำปาง อุตรดิตถ์ พิษณุโลก จนถึงกรุงศรีอยุธยา ทางใต้นั้นก็เข้าตีระนอง เพชรบุรี กาญจนบุรีแล้วเข้าล้อมกรุงศรีอยุธยาไว้ทุกด้าน ศึกครั้งนี้พม่าหวังจะทำลายกรุงศรีอยุธยาไม่ให้ฟื้นตัวได้ ผู้คนชาวสยามล้มตายเป็นอันมากและถูกจับไปเป็นเชลยอีกหลายหมื่นคน
โฮบ-รับประทาน, ซี-กิน, จฺร็อม-แดก
“โฮบบาย” เป็นคำสุภาพที่สุดของผู้ดีมีการศึกษา มีวัฒนธรรมสูง แปลว่า “รับประทานอาหาร” คำว่า “ซีบาย” คนชั้นกลางธรรมดาสามัญจะพูดคำนี้ แปลว่า“กินข้าว” คำว่า “จฺร็อม” แปลว่า “แดก”ซึ่งเป็นคำไม่สุภาพนัก ใช้ในการด่าหรือในยามที่ตัวเองคับแค้นใจ
เมื่อคนอาเซียนเปลี่ยนการกิน
นี่เป็นตัวบ่งชี้ที่เราปฏิเสธไม่ได้ว่า ยิ่งเราพยายามผลักดันประเทศให้ทันสมัยศิวิไลซ์ไฮเทคเท่าเทียมกับตะวันตกมากขึ้นเท่าใด ยิ่งเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอาหารอย่างตะวันตกมากขึ้นเท่านั้น ที่สำคัญลูกหลานของเรามีแนวโน้มเปลี่ยนค่านิยมการบริโภคอย่างตะวันตก ถือว่าทันสมัยง่าย ๆ สบาย ๆ ไฮโซ ไฮเทค จากสื่อต่าง ๆ ที่เสพติดกันถ้วนหน้า
ตาม “ลาว คำหอม” ไปเยี่ยมชายแดนใต้ (ตอนที่ ๒)
ด่านในตัวเมืองยะลา มองดูแล้วหายน่ากลัวไปเยอะ เพราะมีกลุ่มศิลปินพากันมาวาดภาพการ์ตูนสวนดอกไม้ ฯลฯ ที่แท่งบังเกอร์และแผ่นกั้นระเบิดหลายจุดในเมือง ที่นี่มีห้างใหญ่อยู่ห้างเดียวคือห้างโคลีเซี่ยม ของคุณคม อัครเดช อดีตผู้กำกับภาพยนตร์ มีร้านท็อปเจริญมากกว่าเซเว่น ผ่านตลาดสดและบริเวณสถานีรถไฟเป็นโซนชาวพุทธข้ามทางรถไฟไปฝั่งโน้นชาวบ้านเรียกเขตเยรูซาเล็มเพราะเป็นเขตมุสลิม
ผู้ไตในอำเภอหม่ากวน มณฑลยูนนาน
ในเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วง-กวางสี ชาติพันธุ์กลุ่มย่อยที่มีชื่อเรียกตนเองมาแต่เดิมหลายสิบกลุ่ม ถูกเปลี่ยนให้สังกัด ชนชาติจ้วง ชื่อเรียกตนเองว่า คนนุง คนโท้ ผู้ไต ผู้ม่าน(บ้าน) ผู้นา ฯลฯ จึงหายไป
คนเหล่า (Lao) เคลื่อนเข้าสู่เสฉวน
แบบเรียนประวัติศาสตร์รุ่นเก่า เขียนกันว่า ชนเผ่าไทเคยใหญ่อยู่นครลุง นครปา แล้วหนีจีนลงมาอยู่น่านเจ้า จากน่านเจ้าก็หนีจีนลงมาอยู่สุโขทัย แต่บันทึกประวัติศาสตร์จีนกลับมีเรื่องตรงกันข้าม คือ ในยุค หนาน-เป่ย หลังราชวงศ์จิ้น (ของลูกหลานสุมาอี้) แผ่นดินจลาจล ปรากฏว่า จีนกวาดต้อน คนเหล่า ชนพื้นเมืองในกุ้ยโจว ขึ้นไปอยู่เสฉวนถึงห้าแสนกว่าคน
ประวัติศาสตร์การเมืองอีสาน (บทที่ ๒)
มณฑลลาวกลาง เรียกใหม่ว่ามณฑลนครราชสีมา มณฑลลาวพวน เรียกใหม่ว่ามณฑลฝ่ายเหนือ ต่อมาปี พ.ศ. ๒๔๔๓ เรียกว่ามณฑลอุดร ส่วนมณฑลลาวกาวในปี พ.ศ. ๒๔๔๒ นั้น เรียกใหม่ว่ามณฑลตะวันออกเฉียงเหนือ ต่อมาในปีพ.ศ. ๒๔๔๓ เรียกว่ามณฑลอิสาน คำว่า “อิสาน” หรือ “อีสาน” และคำว่า “ตะวันออกเฉียงเหนือ” ถูกนำมาใช้ตั้งแต่บัดนั้น
“ลาว” กลุ่มชาติพันธุ์ก่อนเรียกตัวเองว่า “ไต-ไท”
ทั้งหมดนี้มีพันธุกรรม DNA ร่วมกัน มีภาษาใกล้เคียงกัน อยู่ในกลุ่มวัฒนาธรรมข้าว วัฒนธรรมเรือ วัฒนธรรมสำริด ร่วมกัน จีนบันทึกเมื่อเกือบสี่พันปีก่อนเรียกพวกนี้่ว่า ไป่ผู ต่อมาเมื่อสามพันปีก่อนเรียกพวกนี้ว่า "ไป่เยวี่ย" สาขาหนึ่งของพวกไป่เยวี่ย ที่อยู่ในกวางสี กุ้ยโจว ยูนนาน เวียดนามภาคเหนือ และลาวภาคเหนือ อีสาน
จิตร ภูมิศักดิ์ คนยังคงยืนเด่นโดยท้าทาย
จุดที่หักเหชีวิตของจิตรมากจุดแรกน่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ นั่นคือการได้สนิทสนมและร่วมงานกับ ดร.วิลเลียม เจ.เก็ดนีย์ (Dr. William J. Gedney) จิตร ได้ย้ายไปอยู่กับ ดร.เก็ดนีย์ ที่ซอยร่วมฤดี ถนนสุขุมวิท ผู้เชี่ยวชาญด้านตะวันออกไกล ชาวอเมริกัน ช่วงแรก ดร.เก็ดนีย์ จ้างจิตรเดือนละ ๓๐๐ บาท ให้สอนภาษาไทยและวรรณคดีไทย ต่อมามีผู้ว่าจ้างให้ ดร.เก็ดนีย์ แปลเอกสารภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทย จิตรเป็นผู้ช่วยและแบ่งรายได้กันคนละครึ่ง
รำฦก ๘๕ ปีชาตกาลผ่าน ๑๐ ปี มรณกรรมลุงคำพูน บุญทวี
หากเรานับการบันทึกพงศาวดารของดินแดนภาคอีสาน เรื่อง พื้นเวียงและสารลึบปะสูรย์ เป็นนิทานขุนบรมฉบับอีสานในยุคต้น ๆ แล้วละก็ ข้าพเจ้าจะไม่กระดากปากที่บอกว่า “ลูกอีสาน” เป็นนิทานขุนบรมฉบับอีสานในยุคต่อมาก่อนที่จะถึงยุคโลกาภิวัตน์อย่างไม่อายใคร
มหัศจรรย์ ‘ภูพาน’ บันดาลใจ (๑)
รูปลักษณ์ของดอกเหียงแลดูคล้ายเครื่องหมาย “สวัสดิกะ” ของชาวพุทธฝ่ายมหายาน ซึ่งได้รับอิทธิพลจาก “สวัสดิกะ” ของชาวฮินดู เพียงแต่หมุนกลับข้างกัน (ของฮินดูหมุนวนทางขวา ของฝ่ายพุทธหมุนวนซ้าย) เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์มงคล เป็นเครื่องหมายแห่งพลวัตร การเคลื่อนไหว...