หลับคาตีน
พ่อเฒ่าดิษฐ์ผัวแม่เฒ่านง บ้านดงหมู เป็นคนย้านเมียที่สุดคนหนึ่ง แต่แกมีวาทะคุยอวดเพื่อนเสมอว่า แม่เฒ่านงเมียของแกกลัวผัวเป็นที่สุด แค่แกไอเมียแกก็เยี่ยวราดแล้ว! บักจอนผู้เป็นลูกเขยก็เป็นคนกลัวเมียอีกคนหนึ่ง แต่มันไม่กล้าพูดหรือมีวาทะเหมือนพ่อเฒ่าของมัน เมียสั่งทำอะไร บักจอนต้องรีบปฏิบัติตามคำสั่งในทันที ถือว่า “คนเชื่อฟังคำเมียจะได้ดีกันทุกคน!”
ยังไม่ล้าง
“แต๊บเอ้ย! ไปเก็บยอดกระถินข้างฮั้วกับผักเม็ก ผักติ้วที่พ่อปลูกไว้มากินแหน่บักหำ!”
บักแต๊บก็ไปเก็บผักตามที่พ่อเฒ่าเหงี่ยมบอก มันเอาผักที่เก็บมาไปล้างที่โอ่งน้ำข้างบ้านแล้วเดินไปหาจานที่จะใส่ผักในครัว
พ่อเฒ่าเหงี่ยมไม่เห็นตอนบักแต๊บล้างผักเห็นแต่ตอนมันไปเอาจานมาใส่ผัก จึงถามบักแต๊บด้วยความหวังดี
“เจ้าล้างแล้วบ่บักหำ?”
บักแต๊บได้ยินพ่อเฒ่าเหงี่ยมถามแว่ว ๆ ก็ตอบไปตามตรงว่า
“บักหำยังบ่ล้าง! ล้างแต่ผัก!”
วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม อ.บึงสามัคคี จ.กำแพงเพชร กับโครงการพัฒนาดนตรี-รำฟ้อน ให้แก่เยาวชน โดย “หมาเก้าหาง” – “มูลนิธิทางอีศาน” [ ๑ ]
ชาวบ้านซึ่งมีเชื้อสายลาวครั่ง และลาวเวียง ได้อพยพโยกย้ายถิ่นฐานจากจังหวัดนครปฐม และ จังหวัดราชบุรี มาจับจองที่ดินเพื่อทำมาหากินที่บริเวณอำเภอขาณุวรลักษบุรี ซึ่งในขณะนั้นบริเวณนี้ยังเป็นป่าดงดิบเต็มไปด้วยสัตว์ป่า อุดมสมบูรณ์ด้วยแหล่งน้ำ และมีต้นสนุ่น (ใคร้นุ่น) เกิดอยู่เต็มท้องทุ่งนา
พ่ อ ค้ า เ ก ลื อ
พ่อเฒ่านึก มีลูกเขยชื่อบักเท พากันประกอบอาชีพต้มเกลือขาย เมื่อผลิตเกลือได้ปริมาณเพียงพอที่จะบรรทุกไปขายได้แล้ว ก็พากันจัดแจงเอาถุงเกลือขึ้นรถบรรทุก รถคันนี้มีเครื่องขยายเสียงไว้ประกาศโฆษณา ขายเกลือไปตามสถานที่ต่าง ๆ พ่อ
เฒ่านึกแกถนัดขับรถ ส่วนบักเทคล่องเรื่องประกาศโฆษณา...
ดอกจาน [Palasha] ‘เล็บแดงแห่งกามเทพ’…มิ่งไม้มหามงคล
สีแดงเริงร่าแห่งดอกจานยามบานตระการมีพลังร้อนแรงจนฝรั่งตั้งฉายาว่า “เปลวไฟในพนา” - frame of the forest แต่ชาวภารตะเปรียบเปรยได้งดงามไพเราะกว่าว่า ดอกจานคือ “กามเทวนะขา – เล็บ (แดง) แห่งกามเทพ” เจาะดวงใจผู้มีรัก...
แนวอยู่ แนวกิน
เรื่องอาหารการกินคนอีสานเรียกว่า แนวอยู่แนวกิน รสนิยมการกินของคนเราแตกต่างกันไปตามแต่วัตถุดิบตามธรรมชาติของแต่ละพื้นที่ อาหารตามธรรมชาติบางอย่างหากินได้เฉพาะฤดูกาล ปีหนึ่งอาจได้กินครั้งเดียว เช่น อึ่ง แมงกินูน กิโป่ม ฯลฯ คำเปรียบเปรยของคนอีสานที่ว่า “ของแซบอยู่กับผู้มัก” แล้วแต่รสนิยมเก่าแก่แต่โบราณมา อาหารการกินของคนภาคไหน ๆ ก็คงเหมือนกัน แล้วแต่ใครจะมีวัตถุดิบ พืชพันธุ์ธัญญาหารตามถิ่นที่มี
มื้อนี้…มันค่ำแล้ว!
“มึงซักผ้าคนเดียวอย่างนี้ทุกวันเหรอ” มันตอบ “กูผลัดกันทำ” วันต่อมา ก็เห็นมันทำกับข้าวให้ลูกเมียกินอีก ถามมัน มันก็ตอบว่า “กูผลัดกันทำ” และวันหลังมาอีก เห็นมันกวาดบ้านถูบ้าน จัดเก็บสิ่งของอยู่คนเดียวจนเหงื่อโชกท่วมกาย ถามมันก็ได้คำตอบ “กูผลัดกันทำ” อีกตามเคยก็เลยซักถามเอาความจริงจากมันให้ได้
“ที่มึงว่าผลัดกันทำน่ะ กูยังไม่เห็นเมียมึงทำอะไรให้กูเห็นเลย มึงผลัดกันทำยังไงวะ?”
เพื่อนมันก็ตอบแบบสบาย ๆ ว่า “ที่ผลัดกันทำน่ะคือ ชาตินี้กูทำ ชาติหน้ากูผลัดให้เมียทำ!”
รุ่นห้าร้อย
“ป๋า...หนูขอนั่งร่วมโต๊ะได้ไหม?”
“ได้เลยหนู” พ่อเฒ่าแอ้อนุญาตเพราะดูแล้วหน้าตาสวยดี บักตุ๊ดก็เป็นผู้จัดแจงหาเครื่องดื่มบริการ
“ป๋าขา... หนูมีเรื่องเดือดร้อนทางการเงิน หนูมีห้องพักแต่ค่าเช่าห้องไม่พอ อยากให้ป๋าช่วยสองพัน”
สาววัยรุ่นอ้อน
“ห้าร้อยได้ไหม?”
ทางอีศาน 74 : ข่วงบักจุก
"นี่ท่านเลขา..ชาวนาเขาส่งบั้งไฟขึ้นมาขอฝนอีกแล้ว ช่วยจัดการให้พวกเขาโดยเร็ว""พวกเขาขอเพิ่มอีกอย่างที่ไม่มีรัฐบาลไหนช่วยได้ เขาว่างั้น""ให้ช่วยอะไรอีกรึ""อยากได้ข้าวเกวียนละสองหมื่นพะยะค่ะ!"
บ่อ!
“หักซ้ายหน่อยพ่อ” บักอี๊ดบอก พ่อเฒ่าอ่างก็หักซ้ายตามลูกเขยคนกรุงเทพฯบอก พอขับไปได้ระยะหนึ่ง บักอี๊ดบอก พร้อมกับใช้มือตบข้างกระบะรถ “ระวัง! ช้า ๆ หน่อยนะพ่อ !”
“มันมีหยังฮึบ่?”
“บ่อ” บักอี๊ดว่า
มั น ก ะ โ พ ด
สาวคูณนอนอยู่ในห้องได้ยินเสียงพ่อว่า...มันกะโพด ก็รีบลุกออกจากที่นอน เข้าใจว่าพ่อบ่นให้ตนเอง ว่าคุยบ่าวดึกจึงตื่นสาย เมื่อสาวคูณออกมายังเฮือนเซีย เห็นผู้บ่าวครูนอนเปิดเผยจนน่าเกลียดอีก ก็กระแทกเสียงอุทานเหมือนกับที่พ่อแม่อุทานว่า “มันกะโพด !”
ทำสีรถใหม่
พ่อเฒ่าลมเป็นคนขี้คุยมาแต่กำเนิด เรื่องบ่มีก่ะหา เรื่องบ่มาก่ะซอก จนคนในหมู่บ้านบอกกันไปทั่วว่า “ถ้าอีตาลมเว้าหยังออกมา ให้เอาห้า
สิบหารเด้อ!” ตามความเป็นจริงแล้ว พ่อเฒ่าลมก็ไม่ใช่คนกะล่อน จนเชื่อถือไม่ได้หรอก เพียงแต่แกเป็นคนขี้เล่น หาเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยสร้าง
ความสนุกสนานให้กับผู้ฟังเท่านั้นเอง
ขี้ลืม
พ่อเฒ่าลมถือพร้าจะออกไปทุ่งนาบ้างแกเดินทางผ่านป่าละเมาะ แกเกิดปวดท้องขี้ขึ้นมากะทันหัน! ก็เลยจะขี้ที่ป่าละเมาะนั่นซะเลย พ่อเฒ่าลมทิ้งพร้าลงบนพื้นดิน แกถอดกางเกงนั่งยอง ๆ ลง แล้วขี้! ในขณะที่แกนั่งขี้อยู่นั้น พ่อเฒ่าลมเหลือบเห็นพร้าเล่มที่แกทิ้งวางไว้ต่อหน้าแกนั่นแหละ! แกลืมและจำไม่ได้ แกเข้าใจว่าเป็นพร้าคนอื่นลืมทิ้งไว้!
ห่ากวาดเมือง
“พ่อเฒ่า! การจ้ำแจ่วโบราณว่ามีสามวิธีเด้อ!”
“มีวิธีใดแหน่ เว้ามาเลย...สาธิตพร้อมเด้อ! จั่งสิเข้าใจ” พ่อเฒ่าอุ่นว่า
“หนึ่ง...โบราณว่า แฮดนอนซำ...”
ว่าแล้วบักก้อนก็เอาข้าวเหนียว ที่ปั้นเป็นก้อนพอดีเคี้ยวเป็นคำได้สะดวก จุ่มแช่ลงในถ้วยแจ่ว...มันแช่ไว้นาน น้ำแจ่วก็ซึมเข้าไปในคำข้าว พอมันยกคำข้าวมาเข้าปากน้ำแจ่วในถ้วยก็ลดวูบลง!
พ่อเฒ่าอุ่นมองดูถ้วยแจ่วที่น้ำแจ่วลดลง พ่อเฒ่าอารมณ์ก็จ้องดูถ้วยแจ่วเหมือนกัน !
“ฮ่วย! แจ่วคือเหลือน้อยแท้?”
สงสารเมีย
วันหนึ่ง บักเลิศมันไปหาปลา มันมีโชคได้ปลาช่อนตัวใหญ่มาหลายตัว พ่อเฒ่านึกก็ไปชักชวนเพื่อนคอเดียวกันมาตั้งวง โดยมีปลาช่อนเผาเป็นกับแกล้ม และในวงเหล้าวันนั้น มีพ่อเฒ่านวน กับพ่อเฒ่าเดช มาร่วมสังสรรค์ด้วย ความสุขและม่วนซื่นในวงเหล้าจึงเกิดขึ้น !
“เป็นใด๋เสี่ยวนึก...กินเหล้าหลาย บักน้อยโต๋มันได้เรื่องอยู่บ้อ?” เสียงพ่อเฒ่านวนถามพ่อเฒ่านึก แต่พ่อเฒ่านึกไม่ตอบ มีแต่อมยิ้ม แล้วก็ยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม พ่อเฒ่านวนเห็นว่าพ่อเฒ่านึกไม่ตอบก็หันไปถามพ่อเฒ่าเดช
“หมอเดชเด๋...บักน้อยโต๋เป็นจั่งใด๋?”
“เรื่องนั้นโต๋บ่ต้องถามเฮา...อาทิตย์ละสองยืนพื้น!”