Category

บทกวี, ผญา, คำกลอน

คำผญา (๘)

“งัวบ่กินหญ้าแสนสิข่มก็เขาหัก หมูบ่กินฮำแสนสิตีก็ดังเว่อ” วัวไม่กินหญ้าแม้จะกดเขาลงเขาก็หัก หมูไม่กินรำถึงจะตีจมูกก็แตกบาน

ลายแคนเสียงรถไฟ – พ่อสมบัติ สิมหล้า

ลายแคน ประดิษฐ์โดย พ่อสมบัติ สิมหล้า ที่เลียนมาจากเสียงรถไฟ แสดงในงานเสวนากึ่งสาธิตทางดนตรี “ลายดนตรีแคนในวัฒนธรรมหมอลำ” ในนิทรรศการ “แคนล่องคะนองลำ” ณ หอศิลป์บ้านจิม ทอมป์สัน 28 มีนาคม พ.ศ. 2558

คำผญา (๖) หยอกไฟได้หนี้ หยอกขี้ได้กิน

หยอกไฟได้หนี้ หยอกขี้ได้กิน เล่นกับไฟได้หนี้ เล่นกับขี้ได้กิน ไฟเป็นของร้อน และอะไรที่ร้อน ๆ ก็เปรียบเสมือนไฟ โดยเฉพาะไฟที่เกิดขึ้นในใจนั้นร้อนมากและก็เป็นไฟที่ดับยาก ไฟโลภ ไฟโกรธ ไฟหลง ๓ ไฟนี้ร้อนมาก เมื่อเกิดขึ้นกับใคร นอกจากจะเผาตัวเองแล้วยังเผาผู้อื่นด้วย นี่ยังไม่รวมถึงไฟอบายมุขอื่น ๆ

คำผญา (๗)

เอาลูกสะใภ้มาเลี้ยงย่า เหมือนเอาผีห่ามาไว้ในเรือน ความหมาย แม่ย่าหรือแม่ผัวกับลูกสะใภ้เปรียบเสมือน ขมิ้นกับปูน, เสมือนนํ้ากับนํ้ามัน ส่วนมากเข้ากันไม่ได้ ยังดีที่เป็นน้ำ อย่าง้นอยก็ยังมีความเย็นอยู่บ้าง ถ้าเป็นของร้อน แม่ย่ากับลูกสะใภ้อาจจะเปรียบเหมือนหมากับแมวก็ได้

กลอนบทละคร (๕ – ๖)

กลอนบรรยายพระราชวังกรุงกุเรปัน ในบทละครอิเหนาครั้งกรุงเก่าข้างต้นนี้ ภาพที่บรรยายแท้จริงแล้วก็คือพระราชวังสมัยกรุงศรีอยุธยานั่นเอง เนื้อความตอนนี้จึงมีความหมายสำคัญทางประวัติศาสตร์ด้วยครับ การอ่านวรรณคดีนั้น เราจะได้ทั้งความไพเราะชื่นใจของภาษา และความรู้ทางประวัติศาสตร์ สังคมวิทยาด้วย

กาพย์ไขผญา: เงิน-ทอง

๏ ใจหนอใจมนุษย์ จะสูงสุดเมื่อมีธรรม พื้นเดิมอาจมืดดำ โดยสันดานอันดิบดาย ธรรมดาก็ดูดี ไม่เห็นมีที่อันตราย มีญาติมีมิตรสหาย เกิดเจ็บตายเสมอกัน ถึงคราวร่วมทุนค้า หากำไรมาแบ่งปัน...อ่านต่อ

คำผญา (๓)

ตกหมู่แฮ้งเป็นแฮ้ง ตกหมู่กาเป็นกา เมื่อเราคบใครเราก็เป็นอย่างนั้น เมื่อเข้าไปอยู่ในกลุ่มของอีแร้ง เราย่อมเป็นอีแร้งด้วย

ลานข่วงคำกวี

เมฆา ญายคับฟ้า ​ปานนุ่นทาลานเป็นขุยหยุย ยวงยาว ​​พ่องหนาเนืองกว้างลางเป็น ลอนซอนซั้น เลียนถันแถวหลั่นหลิงเห็น ดารดาษด้าม ​​ดาแต้มแต่งอินทร์

ผญาสมัย

งามวิว ​​ทิวทัศน์ฟ้า ผาหลั่นเลียนกัน เป็นถ้าน ​พะลานหิน ฮ่อมไพรพนอมไม้ พฤกษ์ภู ​​ดูสล้าง ลมพายใบพ่าง สะหวาง ​​งามหว่างใต้ ไกลก้ำต่ำขแมร์

ทางอีศาน 66 : ทำดีถวายไท้

รัตนะ โกสินทร์ ถิ่นไทยรัก ซึ้งตระหนัก กษัตริย์ไทย ใจรักมั่น สามัคคี รวมแก่น แน่นรักกัน เทิดมิ่งขวัญ จักรี ศักดิ์ศรีไทย ‘พระภูมิพล’ เสด็จไหน ‘ใจไทย’อยู่ น้อมเชิดชู คำสอนสั่ง ตั้งใจใส่ จะกี่ภพ กี่ชาติ ตลอดไป จักทำดี ถวายไท้ เทอดนิรันดร์

คำฉันท์ วรรณลีลามรดกชาติ (46) สมุทโฆษคำฉันท์ (34)

นับเป็นเรื่องอัศจรรย์ ที่คำฉันท์เรื่องนี้ปรากฏต้นฉบับตัวเขียนเพียงฉบับเดียวเท่านั้นที่พบในปัจจุบันนี้ เป็นสมุดไทยดำ เขียนด้วยเส้นหรดาล ขนาดกว้าง ๑๑.๒ เซนติเมตร ยาว ๓๔.๕ เซนติเมตร เขียนอักษรสองด้าน รวม ๑๐๔ หน้า ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่ส่วนภาษาโบราณ หอสมุดแห่งชาติ ท่าวาสุกรี

คำฉันท์ วรรณลีลามรดกชาติ (45) สมุทโฆษคำฉันท์ (33)

ตำนานเรื่องพราหมณ์ที่สำคัญเรื่องหนึ่งคือ ตำนานพราหมณ์นครศรีธรรมราช เล่าว่า ในสมัยพระเจ้าอู่ทอง กษัตริย์เมืองรามนครในอินเดียส่งเทวรูปพระผู้เป็นเจ้า และพราหมณ์ เข้ามาถวายพระเจ้าอู่ทอง หัวหน้าพราหมณ์ชุดนั้นชื่อผแดงธรรมนารายณ์ มีพราหมณ์อีกหลายคน
WP2Social Auto Publish Powered By : XYZScripts.com