ฤๅสับปะรดเป็นหัวอยู่ใต้ดิน

ทำไมคนไทยจึงเรียก สับปะรด มีหลายความเห็น แต่ล้วนขาดหลักฐานยืนยัน ยากสรุป จากบันทึกของลา ลูแบร์ คำนี้มีมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์แล้ว ในเอกสารเก่า ๆ บางทีก็เขียน สัปรด ขณะที่ภาษาถิ่นตามภาคต่าง ๆ เรียกชื่อผลไม้ชนิดนี้ตามเสียง อะนานาส ว่า ยานัด หมากนัด บ่าขะนัด คล้าย ๆ กัน

คำฉันท์ วรรณลีลามรดกชาติ (46) สมุทโฆษคำฉันท์ (34)

นับเป็นเรื่องอัศจรรย์ ที่คำฉันท์เรื่องนี้ปรากฏต้นฉบับตัวเขียนเพียงฉบับเดียวเท่านั้นที่พบในปัจจุบันนี้ เป็นสมุดไทยดำ เขียนด้วยเส้นหรดาล ขนาดกว้าง ๑๑.๒ เซนติเมตร ยาว ๓๔.๕ เซนติเมตร เขียนอักษรสองด้าน รวม ๑๐๔ หน้า ปัจจุบันเก็บรักษาไว้ที่ส่วนภาษาโบราณ หอสมุดแห่งชาติ ท่าวาสุกรี

ผญาสมัย

งามวิว ​​ทิวทัศน์ฟ้า ผาหลั่นเลียนกัน เป็นถ้าน ​พะลานหิน ฮ่อมไพรพนอมไม้ พฤกษ์ภู ​​ดูสล้าง ลมพายใบพ่าง สะหวาง ​​งามหว่างใต้ ไกลก้ำต่ำขแมร์

คำฉันท์ (6) วรรณลีลา มรดกชาติ ครุ ลหุ

คำครุ เป็นคำที่มีเสียงหนัก ได้แก่ คำทุกคำที่ประสมกับสระเสียงยาวในแม่ ก กา เช่น งา ชี้ สู้ แล้ ห่อ และคำที่ประสมกับสระเสียงสั้นก็ได้เสียงยาวก็ได้ และมีตัวสะกดด้วย เช่น ขม คิด นึก ปาน โชค เล็บ นอกจากนั้นคำที่ประสมกับสระ อ า ไอ ใอ เอา ซึ่งถือว่าเป็น เสียงมีตัวสะกดก็จัดเป็นคำครุเช่นเดียวกัน

กลอนบทละคร (๕ – ๖)

กลอนบรรยายพระราชวังกรุงกุเรปัน ในบทละครอิเหนาครั้งกรุงเก่าข้างต้นนี้ ภาพที่บรรยายแท้จริงแล้วก็คือพระราชวังสมัยกรุงศรีอยุธยานั่นเอง เนื้อความตอนนี้จึงมีความหมายสำคัญทางประวัติศาสตร์ด้วยครับ การอ่านวรรณคดีนั้น เราจะได้ทั้งความไพเราะชื่นใจของภาษา และความรู้ทางประวัติศาสตร์ สังคมวิทยาด้วย

๓๖๕ น้ำพริก – ๑๐. น้ำพริก ผกค. สูตร ๕ ปลาทูกับน้ำพริกผงชูรส

ผมเป็นหมอประจำกองร้อย ๘๕ เขต ๘ ดอยยาว-ผาหม่น จังหวัดเชียงราย แต่ก็ไม่ค่อยได้นอนในกองร้อยส่วนใหญ่ถูกส่งออกไปทำงานชายขอบฐานที่มั่น งานประจำคือไปกับหน่วยลำเลียง ขนอาวุธลงเขาไปส่งสหายที่ขับรถปิคอัพมารับขนส่งไปที่เขตงานใหม่ ๆ ในภาคเหนือ แล้วก็แบกของลงจากรถปิคอัพกลับฐานที่มั่น ครั้งหนึ่งทำตัวเสียสละแบกรับงานหนัก รับแบกกระทะใบบัว

คำฉันท์ วรรณลีลามรดกชาติ (44) สมุทโฆษคำฉันท์ (32)

พวกพราหมณ์บูชาไฟ มีมาก่อนตั้งกรุงศรีอยุธยาที่หนองโสน(เวียงเหล็ก)แล้ว บริเวณที่พระเจ้าอู่ทองทรงสร้างราชธานีใหม่นั้น อยู่ใกล้สำนักนักพรต ชาวบ้านเรียกว่า ชีกุน คำนี้เพี้ยนมาจากคำว่า ชีกุณฑ์ แปลว่านักบวชผู้บูชาไฟ คือพราหมณ์นั่นเอง

กลิ่นข้าว กลิ่นดอกไม้ กลิ่นธูป และกลิ่นปิศาจ

วิทยาศาสตร์มองว่า กลิ่นเป็นสารเคมีที่เมื่อจับกับตัวรับกลิ่น ในส่วนบนของโพรงจมูกแล้ว ส่งสัญญาณไปยังสมอง หลังจากประมวลผลเปรียบเทียบกับกลิ่นและเหตุการณ์ในอดีต กำหนดเป็นการแสดงออกที่ยอมรับหรือไม่ยอมรับกลิ่นนั้น และยังเชื่อมโยงไปถึงความรู้สึก และอารมณ์อื่น ๆ

ก้อยไข่โพ๊ะ : แหย่ไข่มดแดงในป่า หาปลากั้งน้อย ไปทำก้อยไข่โพ๊ะ

เดือนสามลมวี่เดื่อนสี่ลมวอย พัดดอกฮังน้อยหอมไกล ลมแล้งพัดมาคราใดให้นึกถึงเยาว์วัย ที่พ่อแม่พาไปกินข้าวป่า แหย่ไข่มดแดงที่ต้นหว้าพร้อมหาปลาค่อกั้งใหญ่น้อย ไปทำก้อยไข่โพ๊ะ

คำผญา (๘)

“งัวบ่กินหญ้าแสนสิข่มก็เขาหัก หมูบ่กินฮำแสนสิตีก็ดังเว่อ” วัวไม่กินหญ้าแม้จะกดเขาลงเขาก็หัก หมูไม่กินรำถึงจะตีจมูกก็แตกบาน

ทำกุ้งจ่อมง่ายๆ สำหรับคนไกลบ้าน

นำกุ้งฝอยใส่ลงไป ตามด้วยน้ำปลา ให้ท่วมตัวกุ้งฝอย เก็บไว้สองคืน เมื่อครบ ๒ คืนแล้ว นำออกมาเทใส่กาละมัง คลุกรวมกันกับข้าวคั่ว แล้วจึงนำกลับใส่ขวดโหลเหมือนเดิม ฝาปิดให้มิดชิด ห้ามแมลงวันเข้าไป ต่อจากนี้ไปอีก ๓ ถึง ๗ วัน จนกุ้งฝอยเริ่มอืด มีกลิ่นหอม ของข้าวคั่ว ก้อใช้ได้แล้ว

คำผญา (๗)

เอาลูกสะใภ้มาเลี้ยงย่า เหมือนเอาผีห่ามาไว้ในเรือน ความหมาย แม่ย่าหรือแม่ผัวกับลูกสะใภ้เปรียบเสมือน ขมิ้นกับปูน, เสมือนนํ้ากับนํ้ามัน ส่วนมากเข้ากันไม่ได้ ยังดีที่เป็นน้ำ อย่าง้นอยก็ยังมีความเย็นอยู่บ้าง ถ้าเป็นของร้อน แม่ย่ากับลูกสะใภ้อาจจะเปรียบเหมือนหมากับแมวก็ได้

ลานข่วงคำกวี

เมฆา ญายคับฟ้า ​ปานนุ่นทาลานเป็นขุยหยุย ยวงยาว ​​พ่องหนาเนืองกว้างลางเป็น ลอนซอนซั้น เลียนถันแถวหลั่นหลิงเห็น ดารดาษด้าม ​​ดาแต้มแต่งอินทร์

๓๖๕ น้ำพริกกับสวนรอบบ้าน – ๗. น้ำพริก ผกค. สูตร ๒ น้ำพริกแมงระงำ

ผมเป็น ผกค. ลูกกรุง หาอยู่หากินไม่เป็น อยู่ไหนก็ต้องพึ่งสหายชาวนา สหายชาวม้ง หาของกินมาเผื่อ อยุ่ในป่าดอยยาวสองปี ล่าสัตว์ได้ตัวเดียวคือ “อ้นตาบอด” ตัวเล็ก ๆ มันตาฟางเดินหลงขึ้นมาจากรู ผมจึงสามารถเอาไม้เคาะหัว หนีบติดตัวไปทำ “ป่น” หรือน้ำพริกใส ๆ
WP2Social Auto Publish Powered By : XYZScripts.com