“ปลาแดก” นั้นฉันใด

ปลา คือเป็นกับข้าวหลัก หรือเป็นอาหารหลักของคนอีสานมาแต่โบราณกาล ดังจะเห็นได้จาก ปู่ ย่า ตา ทวด สอนลูกสอนหลานว่า ให้กินอาหารหลักเป็นประจำ คือ “กินข้าวเป็นหลัก กินผักเป็นยา กินปลาเป็นแนวกิน” หมายถึง ให้กินข้าวเป็นหลัก ให้กินผักเป็นยา และให้กินปลาเป็นกับข้าว นี้ย่อมแสดงให้เห็นว่า ปลา มีความสำคัญต่อการบริโภคอาหารของคนอีสาน

ผญา – ยอดวรรณกรรมอีสาน

ผญา เป็นสำนวนคำพูดที่ไพเราะ คมคายลึกซึ้ง สละสลวย คนอีสานนั้นเป็นคนมีโวหาร เจ้าบทเจ้ากลอน พูดจาเป็นคำคม มีสัมผัสคล้องจอง ไพเราะ น่าฟัง ไม่ว่าจะเป็นโอวาท คำสั่งสอน คำตักเตือน ห้ามปราม หรือคำเกี้ยวพาราสีของหนุ่มสาวอีสานในอดีต สมัยโบราณนั้นคนอีสานมักพูดเป็นสำนวนภาษาแบบผญาเป็นส่วนมาก

ลานข่วงคำกวี

เมฆา ญายคับฟ้า ​ปานนุ่นทาลานเป็นขุยหยุย ยวงยาว ​​พ่องหนาเนืองกว้างลางเป็น ลอนซอนซั้น เลียนถันแถวหลั่นหลิงเห็น ดารดาษด้าม ​​ดาแต้มแต่งอินทร์

๓๖๕ น้ำพริก – ๑๗. น้ำพริกเต้าหู้พริกไทยอ่อน

พริกไทยเป็นอาหารที่เหมาะอย่างมากสำหรับคนธาตุเจ้าเรือนเป็นธาตุลม (พฤษภาคม-กรกฎาคม) ซึ่งจะช่วยป้องกันการเจ็บป่วยต่าง ๆได้ พริกไทยอ่อนช่วยดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ได้ดี นอกจากนั้นยังนิยมนำมาทำน้ำพริกพริกไทยอ่อน นิยมใช้พริกไทยอ่อนเป็นส่วนประกอบใน ผัดเผ็ด ผัดฉ่า แกงป่า น้ำพริกพริกไทอ่อน

ทางอีศาน 66 : ทำดีถวายไท้

รัตนะ โกสินทร์ ถิ่นไทยรัก ซึ้งตระหนัก กษัตริย์ไทย ใจรักมั่น สามัคคี รวมแก่น แน่นรักกัน เทิดมิ่งขวัญ จักรี ศักดิ์ศรีไทย ‘พระภูมิพล’ เสด็จไหน ‘ใจไทย’อยู่ น้อมเชิดชู คำสอนสั่ง ตั้งใจใส่ จะกี่ภพ กี่ชาติ ตลอดไป จักทำดี ถวายไท้ เทอดนิรันดร์

คำฉันท์ (6) วรรณลีลา มรดกชาติ ครุ ลหุ

คำครุ เป็นคำที่มีเสียงหนัก ได้แก่ คำทุกคำที่ประสมกับสระเสียงยาวในแม่ ก กา เช่น งา ชี้ สู้ แล้ ห่อ และคำที่ประสมกับสระเสียงสั้นก็ได้เสียงยาวก็ได้ และมีตัวสะกดด้วย เช่น ขม คิด นึก ปาน โชค เล็บ นอกจากนั้นคำที่ประสมกับสระ อ า ไอ ใอ เอา ซึ่งถือว่าเป็น เสียงมีตัวสะกดก็จัดเป็นคำครุเช่นเดียวกัน

กลิ่นข้าว กลิ่นดอกไม้ กลิ่นธูป และกลิ่นปิศาจ

วิทยาศาสตร์มองว่า กลิ่นเป็นสารเคมีที่เมื่อจับกับตัวรับกลิ่น ในส่วนบนของโพรงจมูกแล้ว ส่งสัญญาณไปยังสมอง หลังจากประมวลผลเปรียบเทียบกับกลิ่นและเหตุการณ์ในอดีต กำหนดเป็นการแสดงออกที่ยอมรับหรือไม่ยอมรับกลิ่นนั้น และยังเชื่อมโยงไปถึงความรู้สึก และอารมณ์อื่น ๆ

ปลาน้ำจืดดิบ หอยลายดิบ ปลาร้าดิบ ต้นเหตุโรคเหน็บชา

พบรายงานผู้ป่วยอาการแขนขาอ่อนแรง ชาตามปลายมือ ปลายเท้า และชาตามร่างกาย 78 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิต 2 ราย วินิจฉัยพบว่า เกิดจากการติดเชื้อในกระแสเลือด ซึ่งผู้ป่วยทั้งหมดอยู่ในเรือนจำแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จากการสอบสวนโรคพบว่า ผู้ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงจากการขาดวิตามินบี 1 หรือภาวะเป็นโรคเหน็บชา

สกู๊ป งาน ~ “สู่ขวัญสุวรรณภูมิ” เสวนาวิชาการ เล่าขานเรื่องราวสุวรรณภูมิ

สกู๊ป งาน ~ “สู่ขวัญสุวรรณภูมิ” เสวนาวิชาการ เล่าขานเรื่องราวสุวรรณภูมิ เมื่อวันพฤหัสบดี ที่ 30 พฤศจิกายน 2566 ณ ห้อง Auditorium ชั้น 2 มหาวิทยาลัยรังสิต

หน่อไม้-ต้นไผ่ เรื่องไหนรู้จริง

แทบไม่มีคนไทยคนไหนไม่รู้จักต้นไผ่ เราล้วนเคยเห็นป่าไผ่ กระท่อมไม้ไผ่ ตะกร้าสาน ขลุ่ยไม้ไผ่ ตะเกียบไม้ไผ่ ซุปหน่อไม้ ฯลฯ จนคุ้นเคยแบบหลับตาก็นึกภาพได้ แต่เอาเข้าจริง สิ่งที่เราคิดว่ารู้เกี่ยวกับต้นไม้พื้นบ้านชนิดนี้นั้น จริงเท็จแค่ไหน หวังว่าเรื่องราวต่อไปนี้ คงช่วยตอบคำถามที่หลายคนไม่เคยคิดจะถามได้บ้าง

คำฉันท์ วรรณลีลามรดกชาติ (44) สมุทโฆษคำฉันท์ (32)

พวกพราหมณ์บูชาไฟ มีมาก่อนตั้งกรุงศรีอยุธยาที่หนองโสน(เวียงเหล็ก)แล้ว บริเวณที่พระเจ้าอู่ทองทรงสร้างราชธานีใหม่นั้น อยู่ใกล้สำนักนักพรต ชาวบ้านเรียกว่า ชีกุน คำนี้เพี้ยนมาจากคำว่า ชีกุณฑ์ แปลว่านักบวชผู้บูชาไฟ คือพราหมณ์นั่นเอง

คำฉันท์ (๖)

อเล่าถึงวรรณคดีอีสาน เรื่อง “นางแตงอ่อน” สักหน่อยหนึ่ง แม้ว่าฉันทลักษณ์เรื่องนี้จะเป็นโคลงลาว เหตุที่จำเป็นต้องกล่าวถึง เพราะวรรณคดีอีสานเรื่องนี้มีฉาก “การคล้องช้างเผือก” ด้วยบ่วงบาศเชือกปะกำ วรรณคดีภาคกลางที่บรรยายฉากการคล้องช้างไว้ละเอียดที่สุดคือเรื่อง “สมุทรโฆษคำฉันท์” เหตุที่กวีประพันธ์ฉากนี้ไว้ละเอียด น่าจะเนื่องจากพระราชนิยมของสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงโปรดการคล้องช้างมาก ข้าพเจ้าเคยเขียนเล่าไว้ในคอลัมน์นี้ถึงห้าหกตอน

คําผญา (๑๙) “สุขทุกข์นี้ของกลางเทียมโลก บ่มีไผหลีกล้มลงหั้นสู่คน”

ความสุขความทุกข์เป็นสิ่งคู่กัน และก็เป็นสมบัติของโลก ใครเกิดมาในโลกนี้ต่างก็ได้รับความสุขความทุกข์กันทั่วหน้า โดยไม่มีใครหลีกได้พ้น มันเป็นความจริงที่มาก่อนความตาย สุขแล้ว ทุกข์แล้วจึงตาย บางคนอาจตายขณะที่อิ่มเอิบด้วยความสุข บางคนอาจตายขณะที่มีความทุกข์ทรมาน ความสุขความทุกข์เป็นสมบัติของทุกคน นับแต่ขอทาน ยาจกคนมั่งมีมหาเศรษฐี ฯลฯ

ก้อยไข่โพ๊ะ : แหย่ไข่มดแดงในป่า หาปลากั้งน้อย ไปทำก้อยไข่โพ๊ะ

เดือนสามลมวี่เดื่อนสี่ลมวอย พัดดอกฮังน้อยหอมไกล ลมแล้งพัดมาคราใดให้นึกถึงเยาว์วัย ที่พ่อแม่พาไปกินข้าวป่า แหย่ไข่มดแดงที่ต้นหว้าพร้อมหาปลาค่อกั้งใหญ่น้อย ไปทำก้อยไข่โพ๊ะ
WP2Social Auto Publish Powered By : XYZScripts.com